Thursday, October 29, 2015

รอบรู้เรื่องกาแฟ วิธีการคั่วกาแฟมีกี่แบบและ การเบลน

รอบรู้เรื่องกาแฟ วิธีการคั่วกาแฟมีกี่แบบ 

รอบรู้เรื่องกาแฟ วิธีการคั่วกาแฟแบบใหนบ้างที่นิยม การเบลน การคั่วกาแฟแบบใหนที่ให้รสชาติที่ดีที่สุด วิธีการคั่วแต่ละแบบก็ให้ข้อดีที่ต่างกันไปอย่างไรไขคำตอบวิธีการคั่วกาแฟที่สามารถคั่วได้เองง่ายๆ เราทราบว่าสายพันธุ์กาแฟ มี 2 สายพันธุ์ คือ กาแฟอราบิก้า โรบัสต้า ทั้งสองแบบเมื่อคั่วออกมาแล้วจะให้รสชาติที่ต่างกัน คือ นุ่ม และเข้มตามลำดับ

เครื่องคั่วกาแฟของ สวนสดชื่น
เครื่องคั่วกาแฟของ สวนสดชื่น

วิธีการคั่วกาแฟมีด้วยกัน 5 แบบ แต่ละแบบก็ต้องอาศัยประสบการณ์ในการคั่ว ไม่ใช่ว่าจะคั่วกันได้ง่ายๆ เป็นงานฝีมือที่ต้องทำกันมานาน แต่การคั่วที่ง่ายๆ ก็ใช่ว่าจะคั่วไม่ได้ เที่ยวกับชัยเคยได้ลองคั่วกาแฟแบบลูกทุ่งๆ มาแล้ว

5 วิธีการคั่วกาแฟ

เมล็ดกาแฟ โรบัสต้า
เมล็ดกาแฟ โรบัสต้า

1. การคั่วกาแฟอย่างอ่อน

เป็นการคั่วกาแฟที่ใช้ไฟอ่อนๆ ค่อยๆ คั่วไปเรื่อยๆ เมื่อเมล็ดกาแฟสุกแล้ว ก็มีสีใกล้เคียงกับอบเชย การคั่วแบบนี้จะทำให้น้ำหนักของเมล็ดกาแฟไม่หาย และเมล็ดกาแฟก็จะไม่มัน ไม่เงา

2. การคั่วแบบซิตี้

การคั่วแบบนี้จะใช้เวลาคั่วนานกว่าแบบ การคั่วกาแฟอย่างอ่อน เมล็ดกาแฟที่ได้ก็จะมีสีเข้มกว่า น้ำหนักก็จะลดลงหน่อย

3. การคั่วแบบเวียนนา

การคั่วเมล็ดกาแฟแบบขั้นที่สาม เมล็ดกาแฟที่ได้จากการคั่วจะเริ่มมีสีน้ำตาล และจะมีลายจุด พร้อมกับมีน้ำมันเคลือบเมล็ดอยู่บ้าง

4. การคั่วแบบอิตาเลียน

การคั่วแบบนี้จะเป็นการคั่วที่เข้มสุด เป็นระดับการคั่วขั้นที่สี่ มีน้ำมันเคลือบบนผิวเมล็ดกาแฟอยู่ครึ่งหนึ่ง สีของเมล็ดกาแฟจะออกสีน้ำตาลอ่อน





5. การคั่วเมล็ดกาแฟแบบฝรั่งเศษ

การคั่วแบบนี้จะออกสีน้ำตาลเข้ม มีน้ำมันเคลือบอยู่ทั่วเมล็ดกาแฟ มีรสชาติขม

การเบลนเมล็ดกาแฟ คือ การผสมระหว่างกาแฟพันธุ์ อราบิก้าและโรบัสต้าเข้าด้วยกัน ใครชอบแบบใหนก็ต้องลอง เพราะคอกาแฟแต่ละคนไม่เหมือนกัน

หลังจากคั่วกาแฟแล้ว คราวนี้ก็มาถึงการเก็บเมล็ดกาแฟที่ได้จากการคั่วให้รสชาติไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก การเก็บเมล็ดกาแฟควรเก็นในถุงที่ไม่มีอากาศเข้าไป ทึบแสง ถ้าเป็นถุงซีลด์ได้ยิ่งดี สามารถเก็บได้ 10 วันโดยที่รสชาติคงเดิม เมื่อเปิดใช้ทุกครั้งควรปิดทันทีหลังจากใช้ คือให้สัมผัสอากาศน้อยที่สุด เมล็ดกาแฟสามารถเก็บในตู้เย็นได้ แต่ต้องเก็บในภาชนะที่สามารถไล่ความชื้นได้ ถ้าไม่มีก็ให้ใส่ถุงกันความชื้นลงไปในกล่องได้

เรื่องโดย เที่ยวกับชัย

Tuesday, October 27, 2015

สโลว์ไลฟ์,เส้นทางปั่นจักรยาน พยอม หนองโรง อยุธยา สระบุรี

เส้นทางปั่นจักรยาน พยอม หนองโรง อยุธยา สระบุรี

สโลว์ไลฟ์ในวันหยุดออกพรรษาที่ผ่านมา หยุดงานเพื่อปั่นจักรยานโดยใช้เส้นทางพยอม ปั่นเลียบคลองรพีพัฒน์ เส้นทางปั่นสู่จุดหมายคือ อบต.หนองโรง อ.หนองแค สระบุรี รวมระยะเส้นทางไปกลับประมาณ 70 กิโลเมตร เส้นทางปั่นจักรยานเส้นนี้ถือว่ามีนักปั่นมากมายชอบใช้เส้นนี้ เพราะรถใหญ่ไม่เยอะ และสามารถปั่นไปได้หลายทาง เช่น ออกรังสิต ออกนครนายก ปั่นไป สระบุรี อยุธยา คือสามารถปั่นเป็นวงกลมได้เลย

จักรยาน ฟิกเกียร์
จักรยาน ฟิกเกียร์


ผมมักจะปั่นจักรยานคนเดียว คือประมาณว่าไม่แข่งกับใคร เพราะแรงไม่มี ช่วงปั่นก็มักจะจอดแวะถ่ายรูปตามสถานที่ต่างๆ เช่น วัด ต้นไม้ ดอกไม้สวยงาม แล้วก็นำรูปมาลง บล็อค เที่ยวกับชัย

การปั่นจักรยานสำหรับ เที่ยวกับชัย ถือว่าเป็นการออกกำลังกาย เพื่อสุขภาพ ทั้งร่างกาย อาหารสมอง อาหารตา อุปกรณ์ที่นำติดตัวไปปั่น คือ มือถือ, กล้อง SJ4000 action camera, เงินติดตัว และกระเป๋าใส่ของที่กล่าวมา

ก่อนออกปั่น สิ่งที่ตรวจเช็คก่อน คือ แบตเตอรีมือถือต้องเต็ม 100% เงินติดตัว ตรวจสอบลมยางหน้า ยางหลังจักรยาน ผู้เขียนใช้ยางจักรยานเสือหมอบ ไม่ใช่ยางจักรยานเสือภูเขา จริงๆ ก็ยากมีซักคัน ทาครีมกันแดด ถ้าใส่ขาสั้นก็ทาครีมกันแดดที่ขา ที่แขน

เริ่มเส้นทางปั่นจักรยาน พยอม อยุธยา
เริ่มเส้นทางปั่นจักรยาน พยอม อยุธยา


เส้นทางปั่นสดใส แดดเปรี้ยง
เส้นทางปั่นสดใส แดดเปรี้ยง

ปั่นไปได้หลายทาง
ปั่นไปได้หลายทาง วังน้อย, ออกเส้นพหลโยธิน

ศาลาริมทาง
ศาลาริมทาง เก่ามาก ไม่มีคนมานั่งพักเลย

ปั่นมาเจอเส้นประ ชะลอความเร็ว
ปั่นมาเจอเส้นประ ชะลอความเร็ว ระวังเด็กข้ามถนน

จอดถ่ายเจ้า ปลอกเดียว ชื่อจักรยานฮับผม
จอดถ่ายเจ้า ปลอกเดียว ชื่อจักรยานฮับผม

ปั่นมาเจอต้นสน
ปั่นมาเจอต้นสน ชักซักภาพ

รูปถ่ายจักรยาน กับ ประตูระบายน้ำ
รูปถ่ายจักรยาน กับ ประตูระบายน้ำ

โครงการหญ้าแฝก กันน้ำเซาะหน้าดิน
โครงการหญ้าแฝก กันน้ำเซาะหน้าดิน ใช้ตะแกรงยึดขึงหน้าดินอีกชั้น

ปั่นอีก หนทางยังไกล
ปั่นอีก หนทางยังไกล

วัดลำพระยา
ปั่นถึงวัดลำพระยา

กำลังสร้างพระพุธรูป
กำลังสร้างพระพุธรูป

ตู้โทรศัพธ์ถูกน้ำท่วม ปี 2552 ของ TOT
เป็นสุสาน ตู้โทรศัพธ์ถูกน้ำท่วม ปี 2552 ของ TOT


ห้ามรถผ่าน
ห้ามรถผ่าน แต่ขอถ่ายภาพคู่กับจักรยาน

เดินเข้าวัด ถ่ายรูป งามมาก
เดินเข้าวัด ถ่ายรูปโบสถ์ งามมาก

ประตูและรั้วสแตนเลส งามมาก
ประตูและรั้วสแตนเลส งามมาก
ติดต่องานสแตนเลส หจก.เทพภารัตน์โลหะกิจ

สวยงาม
ปั่นจักรยาน

ภาพริมด้านข้าง รั้วสแตนเลส
ภาพริมด้านข้าง รั้วสแตนเลส


พระพุธรูป ด้านหลังของโบสถ์
พระพุธรูป ด้านหลังของโบสถ์

ภาพนี้สวยงาม แสงอาทิตย์สะท้อน
ภาพนี้สวยงาม แสงอาทิตย์สะท้อน


ร่มรื่นทางเข้า
ร่มรื่นทางเข้า

เจ้าปลอกเดียว จักรยาน ฟิกเกียร์
เจ้าปลอกเดียว จักรยาน ฟิกเกียร์

สวนไม้ จัดสวน ไม้พุ่ม
สวนไม้ จัดสวน ไม้พุ่ม

สนามตะกร้อ
ปั่นไปเจอ สนามตะกร้อ

ฝน ท้องฟ้า มือครึ้ม
ปั่นไปเจอท้องฟ้ากำลังครึ้ม

ฟ้าเริ่มจาง
ปั่นไปฟ้าเริ่มจาง ฝนไม่ตก

เก็บภาพทุ่งนา
ปั่นไป เก็บภาพทุ่งนาไป

กำลังตั้งเสาไฟฟ้า ติดตั้งหม้อแปลงไฟฟ้า
กำลังตั้งเสาไฟฟ้า ติดตั้งหม้อแปลงไฟฟ้า



ปั่นจักรยาน ถึงแล้ว อบต.หนองโรง หนองแค สระบุรี
ถึงแล้ว อบต.หนองโรง หนองแค สระบุรี นั่งพัก ดื่มน้ำถ่ายรูปสวนหย่อม


สวนหย่อม อบต.หนองโรง
สวนหย่อม อบต.หนองโรง

ประติมากรรมดินเผา
ประติมากรรมดินเผา



ศาลาริมทาง หยุดพักปั่นจักรยาน
ศาลาริมทาง หยุดพักปั่นจักรยาน


จากการปั่นจักรยานครั้งนี้ทำให้รูว่า การปั่นไปกลับเส้นทางเดียวมันเหนื่อยมาก สู้ปั่นแบบเส้นทางวงกลมน่าจะดีที่สุด เส้นทางปั่นจักรยานอยุธยา พยอม ถึง หนองโรง สามารถ ปั่นไปหนองเสือปทุมธานีได้

Sunday, October 25, 2015

ความรู้ทั่วไปของการผลิตเมล็ดกาแฟ ขั้นตอนการแปรรูป

ความรู้ทั่วไปของการผลิตเมล็ดกาแฟ ขั้นตอนการแปรรูป

กว่าจะเป็นกาแฟให้เราดื่มล้วนมีขั้นตอนการแปรรูป ผลิตกาแฟที่ซับซ้อนพอสมควร เราทราบเพียงว่าเก็บเมล็ดกาแฟที่สุกแดงแล้วนำไปตากแดดให้แห้งเพียงเท่านี้ แต่ขั้นตอนการผลิดเราไม่ทราบมากเท่าไร เนื่องจกเขียนเรื่องกาแฟแล้ว ก็เลยหาข้อมูลขั้นตอนการผลิตสารกาแฟว่ามีอะไรบ้าง ใช้เครื่องมืออะไรบ้าง

จากที่ผู้เขียน (เที่ยวกับชัย) ได้สัมผัสการเก็บเมล็ดกาแฟสมัยวัยเด็ก พอจะเล่าได้ว่า พ่อแม่ปลูกกาแฟรอบบ้าน สายพันธุ์โรบัสต้า จะช่วยพ่อแม่เก็บเมล็ดกาแฟที่สุกเกือบทั้งต้น สีของกาแฟสุกที่เก็บได้ ก็เป็นสีแดงบานเย็น หรือสมัยนี้เรียกว่า "สีแดงเชอรี่" ตอนเก็บก็ใช้มือกำรอบพวงกาแฟแล้วก็บิดกำในมือ แล้วก็ใส่กะละมัง จากนั้นก็นำไปตากแดดให้แห้ง ตากทุกวัน ตากแล้วเก็บ แล้วก็ตากใหม่ ถึงเวลาก็จะมีพ่อค้าขับรถมารับเมล็ดกาแฟถึงบ้าน

การแปรรูปกาแฟ


หลังจากที่พ่อค้ารับซื้อกาแฟแล้ว ก็จะนำกาแฟไปแปรรูป ก็คือทำสารกาแฟนั่นเอง โดยทั่วไปมีด้วยกัน 2 วิธีการ คือ การทำสารกาแฟโดยวิธีเปียก(Wet Processing) และการทำสารกาแฟโดยวิธีการแห้ง(Dry Processing)

วิธีการทำสารกาแฟแบบเปียก (Wet Processing)

วิธีนี้เป็นที่นิยมมาก ทั้งนี้เพราะ จะไม่เสียรสชาติ และคุณภาพของกาแฟที่ผ่านการ wet processing และที่สำคัญสารกาแฟก็จะขายได้ราคาสูงด้วย ขั้นตอนการผลิตสารกาแฟ wet processing มีดังนี้
Wet Process ของสวนสดชื่น สวนกาแฟ
Wet Process ของสวนสดชื่น สวนกาแฟ

1 ปอกเปลือก นำเมล็ดกาแฟสดมาปอกทันที โดยใช้มือขย่ำ หรือเครื่องปอกก็ได้
2 กำจัดเมือก หลังจากปอกเปลือกแล้วที่เมล็ดกาแฟจะมีเมือกลื่นติดอยู่ ให้เอาเมือกออกโดยการใช้มือถูเมล็ดกาแฟไปมา ลักษณะพนมมือ
3 ตากแห้ง เมื่อกำจัดเมือกแล้ว ก็นำเมล็ดที่ได้ไปตากแห้งทันที เพื่อไล่ความชื้น
4 บรรจุ นำเมล็ดกาแฟไปบรรจุในกระสอบป่าน และเก็บในที่อากาศถ่ายเทได้ดี ไล่ความชื้นด้วย
5 นำออกจำหน่าย การจำหน่ายควรสีกาแฟกะลา และเหลือแต่สารกาแฟมีสีเขียวอ่อน

ถึงกระบวนการนี้ เที่ยวกับชัย เคยได้นำเมล็ดกาแฟสดจากต้น ผ่านกระบวนการต่างๆ และนำไปคั่วด้วยเตาฟืนธรรมชาติ เตาสามเส้า บนดอยที่ หล่มเก่า เพชรบูรณ์ คั่วสารกาแฟสีเขียวอ่อน ใช้ไฟอ่อน คั่วไปมาอย่าหยุด จะหอมกิ่นกาแฟมาก จากนั้นสังเกตุที่สารกาแฟ จะออกสีน้ำตาลอ่อนๆ และมีกลิ่นหอม และก็นำสารกาแฟมาตำให้แหลกด้วยครก ตำให้ละเอียด ก็จะได้กาแฟผง เหมือนกับกาแฟบด ไม่มีผิดเพี้ยน

จากนั้นต้มน้ำให้ร้อนใส่แก้ว ใส่ผงกาแฟลงไป โอย กลิ่นหอมโชยมาก่อน ชิมกาแฟ ไม่ต้องเติมน้ำตาลหอมมาก ไม่เคยดื่มกาแฟร้อนที่มีรสนุ่ม หอม ไม่ขม ขนาดนี้มาก่อน เพื่อนที่ดื่มด้วยกับยังชอบ พ่อท่านไปด้วยก็ยังติดใจในรสชาติกาแฟที่ทำเองเลย

วิธีทำสารกาแฟแบบแห้ง (Dry Processing)

วิธีนี้นิยมทำในอุตสาหกรรมกาแฟซอง ที่ต้องการปริมาณผลผลิตออกสู่ตลาดมากๆ เช่นนำไปทำกาแฟซอง กาแฟ 3 in 1 วิธีการแห้ง เพียงนำเมล็ดกาแฟที่เก็บได้ใหม่ไปตากแดดไว้ 15 - 20 วัน จากนั้นนำเข้าเครื่องสีกาแฟ แล้วก็บรรจกาแฟลงกระสอบ สารกาแฟที่ได้มีคุณภาพต่ำกว่า แบบเปียก

เครื่องคั่วกาแฟของ สวนสดชื่น
(wet process) คั่วด้วยเครื่องคั่วที่ได้มาตราฐานทำให้กาเเฟของเรามีกลิ่นเเละรสชาติเป็นเอกลักษณ์ ของสวนสดชื่น




การคั่วเมล็ดกาแฟ

กลิ่นและรสของกาแฟที่ดี ก็ได้จากการคั่วสารกาแฟ การคั่วโดยทั่วไปมีด้วยกัน 2 แบบ คือ คั่วโดยใช้แก๊ส คั่วโดยใช้ไฟฟ้า และใช้ฟืน โดยการคั่วโดยใช้แก๊สจะสามารถควบคุมความร้อนได้ ใช้ในการคั่วสารการแฟที่มีปริมาณมากๆ ส่วนการคั่วแบบใช้ฟืนไม่สามารถควบคุมความร้อนได้ ส่วนมากจะคั่วดื่มเอง คั่วน้อยๆ แต่ให้รสชาติออกมาดีมาก ส่วนคั่วโดยใช้ไฟฟ้า ก็จะใช้เครื่องคั่วขนาดต่างๆ ที่ผลิตออกมาข้อดีคือ สะดวก รวดเร็ว คววบคุมความร้อนได้ ส่วนมากร้านกาแฟก็จะใช้เครื่องคั่วไฟฟ้า

การเลือกใช้วิธีการคั่ว ก็แล้วแต่ความเหมาะสมกับการใช้ และเงินทุนด้วย ถ้าเป็นร้านกาแฟก็ใช้เครื่องคั่วไฟฟ้าขนาดเล็ก ถ้าเป็นร้านรับคั่ว ก็แนะนำให้ใช้เครื่องคั่วแก๊ส ถ้าคั่วดื่มเองก็ใช้ฟืนหรือถ่านแทน ก็ได้

เรื่องโดย เที่ยวกับชัย
ภาพจาก สวนสดชื่น

บุคคลไม่ควรดื่มกาแฟ หรือจำกัดปริมาณในการดื่ม

บุคคลไม่ควรดื่มกาแฟ หรือจำกัดปริมาณในการดื่ม

คอกาแฟรู้หรือไม่ว่า ต่อวันร่างกายไม่ควรดื่ม หรือได้รับสารกาเฟอีน เกินกว่า 300 มก./วัน ถ้าคิดเป็นถ้วยก็ประมาณ 3 ถ้วย ถ้าเกินกว่านี้ทำให้ระบบการทำงานของหัวใจล้มเหลวได้ อย่างไรก็ดี การดื่มกาแฟที่พอเหมาะจะเป็นผลดีต่อร่างกาย ผลงานการวิจัยของฮาร์วาร์ดเมดิคัลสคูล(Harvard Medical School) กล่าวว่า การดื่มกาแฟพอเหมาะจะเสี่ยงโรคเบาหวานน้อย ลดการเกิดมะเร็งลำใส้ใหญ่ ลดความเสี่ยงต่อโรคพาร์กินสัน

กาแฟร้อน
กาแฟร้อน Cr: สวนสดชื่น

อย่างไรก็ดี กลุ่มบุคคลที่ไม่ควรดื่มกาแฟ หรือ มีข้อจำกัดปริมาณในการดื่ม ซึ่งก็ได้จำแนกกลุ่มบุคคลได้ดังนี้

กลุ่มผู้หญิง จำกัดปริมาณในการดื่มไม่เกิน 2 - 3 แก้ว ต่อวัน ถ้าดื่มมากอาจเสี่ยงต่อโรคกระดูกพรุน

กลุ่มหญิงให้นมบุตร ไม่ควรดื่มเป็นอย่างยิ่ง อาจส่งผลให้ทารกที่ดื่มนมแม่ได้รับกาเฟอีนด้วย เด็กไม่ยอมนอก กระวนกระวาย

กลุ่มหญิงมีครรภ์ เช่นเดียวกับ กลุ่มหญิงให้นมบุตร คือไม่ควรดื่มกาแฟเป็นอย่างยิ่ง ถ้าดื่มเข้าไปจะส่งผลให้ทารกในครรภ์ดูดซึมสารกาเฟอีนอย่างแน่นอน สารที่ทารกในครรภ์รับเข้าไปจะไม่สามารถขับออกมาได้ จะส่งผลต่อการทำงานของระบบอวัยวะภายในของทารกได้

กลุ่มเด็กอายุต่ำกว่า 10 ปี ไม่ควรดื่ม

กลุ่มสุดท้าย คือกลุ่มผู้เป็นโรค โรคกระเพาะ โรคหอบ โรคหัวใจ โรคไต ทั้งนี้สารกาเฟอีนที่เข้าไปตามเส้นเลือด จะมีผลต่อการรักษาโรคต่างๆ ไม่ควรดื่มเป็นอย่างยิ่ง

ลักษณะของสารกาเฟอีน จะเป็นสีขาว มีรสขม มีฤทธิ์กระตุ้นหัวใจ กระตุ้นระบบประสาทส่วนกลางอย่างอ่อน ผลการกระตุ้นประสาทนี้ทำให้สมองมีความตื่นตัว

สารกาเฟอีน ในกาแฟช่วยกระตุ้นกระเพาะอาหาร ทำให้หลั่งสารน้ำย่อย

บทความโดย เที่ยวกับชัย

Saturday, October 24, 2015

รู้จักสายพันธุ์กาแฟ และวิธีการเพาะปลูก แหล่งเพาะปลูก

รู้จักสายพันธุ์กาแฟ และวิธีการเพาะปลูก แหล่งเพาะปลูกกาแฟ

กาแฟเป็นไม้พุ่มชนิดหนึ่งที่สามารถปลูกได้ทั่วไทย ทั้งนี้ก็แล้วแต่สายพันธุ์ โดยมี 2 สายพันธุ์ที่นิยมปลูก ได้แก่ โรบัสต้าและอาราบิก้า

กาแฟสายพันธุ์ โรบัสต้า

ลักษณะทั่วไป โรบัสต้า เป็นกาแฟที่ให้รสชาติเข้มข้น เป็นไม้พุ่มสูงขนาด 2 - 4 เมตร ใบเดี่ยว ปลายใบแหลม ออกดอกที่ซอกใบ ดอกสีขสวมีกลิ่นหอมมาก ผลสีเขียว เมื่อสุกจะเป็นสีแดงเชอรี่ ผลออกเป็นพวง
การปลูก โรบัสต้า
ปลูกง่ายกว่าอาราบิก้า ไม่ต้องใช้พื้นที่สูงปลูก ชอบอากาศร้อนชื้น อุณหภูมิอยู่ที่ 25 - 35 องศา แหล่งที่ปลูกมากในไทย คือ ระนอง ชุมพร สุราษฏร์

กาแฟอินทรีย์ สายพันธุ์โรบัสต้าที่มีคุณภาพที่ สวนกาแฟสวนสดชื่น ที่จังหวัด ระนอง กาแฟสวนนี้เป็นกาแฟที่เป็นการก่อตั้งและดำเนินการปลูก โดยไม่ใช้สารเคมี และก็ได้ออกร้านตามงานแสดงผลผลิตทางการเกษตรมากมาย และก็เริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้น แต่ก่อน สวนสดชื่น ก็ได้ผลิตแต่เฉพาะสารกาแฟขายอย่างเดียว แต่ ณ ปัจจุบันได้ทำการเปิดร้านกาแฟสดที่ อำเภอ หนองฉาง จังหวัดอุทัยธานี โดยคุณ ใช้ FB ว่า มิ่งขวัญ จันดาเพ็ง




Advertisment



กาแฟอินทรีย์ สายพันธุ์โรบัสต้าที่มีคุณภาพที่ สวนกาแฟสวนสดชื่น ที่จังหวัด ระนอง
กาแฟอินทรีย์ สายพันธุ์โรบัสต้าที่มีคุณภาพที่ สวนกาแฟสวนสดชื่น ที่จังหวัด ระนอง

กาแฟสายพันธุ์ อาราบิก้า

ลักษณะทั่วไป กาแฟสายพันธุ์อาราบิก้า มีความต้านทานโรคสูง ต้นเตี้ย การเพาะปลูกต้องใช้พื้นที่สูงกว่าระดับน้ำทะเลประมาณ 3,000 เมตร อุณหภูมิที่เหมาะแก่การเพาะปลูกอยู่ระหว่าง 15 - 25 องศาเซลเซียส

แหล่งเพาะปลูกกาแฟสายพันธุ์ อาราบิก้า อยู่ที่ เชียงใหม่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน เป็นต้น





แหล่งเพาะปลูกกาแฟที่ใหญ่ที่สุดในโลก คือ ประเทศบราซิล

กาแฟที่ดีที่สุดในโลก ต้องมาจากแหล่งปลูก บราซิล ไอเวอรี่โคสต์ โคลัมเบีย อินโดนีเซีย และ เม็กซิโก

ภาพจาก สวนสดชื่น
เรื่องโดย: เที่ยวกับชัย

เรื่องเล่า,ที่มา,ตำนานประวัติกาแฟ คอกาแฟต้องอ่าน

เรื่องเล่า,ที่มา,ตำนานประวัติกาแฟ คอกาแฟต้องอ่าน

ผู้เขียนชอบปั่นจักรยานและดื่มกาแฟ โดยเฉพาะกาแฟสดเย็นวันนี้ได้ไปเห็นตำราเกี่ยวกับกาแฟ ใครสนใจเกี่ยวกับตำนานของกาแฟ ประวัติความเป็นมา สนใจว่าเหตุใดกาแฟถึงเป็นที่นิยมดื่มของคนทั่วโลก รวมไปถึงประวัติกาแฟในไทย

เอสเพรสโซ กับ ซาลาเปาทับหลี ณ ชุมพร
เอสเพรสโซ กับ ซาลาเปาทับหลี ณ ชุมพร
เริ่มจากตำนานกาแฟ เป็นการเล่าขาน ว่ากันว่ากาแฟกินกันเป็นยามาตั้งแต่สมัยโบราณแล้ว บ้างก็เล่าว่าชาวเอธิโอเปียเป็นผู้ค้นพบ กินแล้วให้สดชื่น แต่ที่เป็นตำนานการค้นพบเด่นชัดสุด คือ นายคาลดี้ ชาวอบิสซีเนีย แอฟริกาค้นพบว่าแพะของเขากินเมล็ดกาแฟสีแดง เขาสงสัยมาก และเขาก็ได้ทดลงเคี้ยวเจ้าเมล็ดสีแดงๆ ปรากฏว่าร่างกายของเขาสดชื่นขึ้นมาทันที

จากนั้นก็เริ่มมีผู้คนอยากรู้ความสดชื่นจากการเคี้ยวเมล็ดสีแดง และเล่าขานกันปากต่อปากจนเป็นที่รู้จักกันเกือบครึ่งโลก โดยมีชาวอาหรับเป็นผู้นำกาแฟไปยังบ้านเกิด ซึ่งปัจจุบันก็คือประเทศเยเมนนั่นเอง และก็ขยายไปสู่ประเทศตุรกี และประเทศอื่นๆ

กล่าวถึงประเทศตุรกี เป็นประเทศที่มีการกินกาแฟกันอย่างแพร่หลายและเป็นจุดกำเนิดของการอบ-บดเมล็ดกาแฟ และชงด้วยวิธีการต้มน้ำ ใครที่ไม่ทราบว่าการอบ-บด กาแฟเกิดเมื่อใหร่ คำตอบ คือ ประเทศตุรกี นี่เอง และที่สำคัญคือ ตุรกีก็มีการขยายพันธุ์และเพาะปลูกกาแฟมากขึ้น

หลังจากนั้นราวคริสต์ศตวรรษที่ 15 กาแฟก็เริ่มเป็นเข้าสู่ยุโรป และก็มีการพัฒนากาแฟไปเป็นการขายกาแฟ โดยการเปิดร้านกาแฟ ทั้งนี้การดื่มกาแฟก็เริ่มนำไปสู่การค้าขายในแบบต่างๆ โดยมีกาแฟเป็นตัวช่วยในการจัดการต่างๆ เช่น ค้าขายก็ต้องมีการพูดคุย และก็มีการดื่มกาแฟกัน

เมนูกาแฟ
เมนูกาแฟ


กาแฟในบ้านของไทยเรา ที่บันทึกไว้ประมาณ 2454 จากบันทึกของ พระยาสารศาสตร์พลขันธ์ ได้กล่าวว่า "มีการปลูกกาแฟพันธุ์อาราบิก้า" เป็นสายพันธุ์ที่ให้กลิ่นหอม ชุ่มคอ ให้รสชาติเข้มข้นปานกลาง ส่วน โรบัสต้านั้นมีรสชาติเข้มกว่า สายพันธุ์นี้ได้นำมาปลูกเมื่อ 2447 ที่อำเภอสะบ้าย้อย จ.สงขลา โดยชาวไทยมุสลิมที่มีชื่อว่า "ตีหมุน"

ความนิยมบริโภคกาแฟ มี 2 สายพันธุ์ คือ อาราบิก้า และ โรบัสต้า โดย อาราบิก้ามีการปลูกที่ความสูง 3,000 ฟุต ส่วนมากปลูกที่ เชียงใหม่ เชียงราย และแม่ฮ่องสอน

เมล็ดกาแฟตากแห้ง
เมล็ดกาแฟตากแดดบนแคร่ไม้ไผ่

ส่วนโรบัสต้า นิยมปลูกที่ร้อนชื้นไม่จำเป็นต้องเป็นพื้นที่ระดับสูงเท่ากับอาราบิก้า สายพันธุ์โรบัสต้าจะให้ผลผลิตสูง รสชาติเข้ม หอม ให้กาเฟอีนสูง นิยมปลูกมากที่ ชุมพร นครศรีธรรมราช และสุราษฎร์ธานี


ประวัติเนสกาแฟ ที่มา: https://www.nescafe.co.th/coffee_history_th_th.axcms

เนสกาแฟที่คุณดื่มนั้นเป็นแบรนด์กาแฟที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน ต้นกำเนิดของเนสกาแฟย้อนหลังไปในปี 1930 เมื่อบราซิลได้ผลผลิตเกินความต้องการและต้องการเก็บรักษาเมล็ดกาแฟไว้ รัฐบาลบราซิลได้ขอให้เนสกาแฟช่วยหาวิธีดังกล่าว แมกซ์ มอร์เกนเธเลอร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านกาแฟของเนสท์เล่และทีมงานของเขาได้คิดวิธีดื่มกาแฟแบบง่ายๆ ด้วยการใช้น้ำ ทีมงานได้ค้นคิดวิธีการทำกาแฟชงดื่มที่ไม่ให้เสียรสชาติกาแฟแบบดั้งเดิม พวกเขาทำสำเร็จใน7 ปีต่อมา
ในที่สุดเนสกาแฟก็พร้อมออกจำหน่าย ชื่อของแบรนด์มาจากการผสมคำว่าเนสท์เล่กับคำว่าคาเฟ่ เนสกาแฟเป็นแบรนด์กาแฟใหม่ที่เปิดตัวครั้งแรกในสวิสเซอร์แลนด์ เมื่อวันที่ เมษายน และประสบความสำเร็จไปทั่วยุโรป ช่วงสงครามโลกครั้งที่ ความนิยมได้แพร่หลายออกไปอีก เนสกาแฟถูกส่งออกไปยังฝรั่งเศส อังกฤษ และสหรัฐฯ ซึ่งทหารอเมริกันมีบทบาทต่อความนิยมของเนสกาแฟไปทั่วยุโรป และเนสกาแฟได้ถูกบรรจุเป็นเสบียงอาหารของทหารอเมริกันด้วย
ช่วงปลายทศวรรษที่ 40ความนิยมยิ่งเติบโตขึ้นไปอีก ปัจจุบัน เนสกาแฟได้ผลิตกาแฟหลากหลายชนิดเพื่อตอบรับรสนิยมของคนทั่วโลก ตั้งแต่เริ่มต้นผลิตเมื่อปี 1938 เนสกาแฟใส่ใจคุณภาพเพื่อให้คุณได้ดื่มกาแฟที่ดีที่สุดทุกๆ ถ้วย ครั้งต่อไปที่คุณหยิบเนสกาแฟ ลองสังเกตส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์ที่เป็น
กาแฟแท้ 100เปอร์เซ็นต์ ไม่มีส่วนผสมอื่นเจือปน

ต้นกาแฟ สายพันธุ์โรบัสต้า ที่ระนอง จากสวนสดชื่น
ต้นกาแฟ สายพันธุ์โรบัสต้า ที่ระนอง จากสวนสดชื่น


ประวัติกาแฟ Amazon ที่มา:http://www.cafe-amazon.com/th/stories.aspx?type=story

จากข้อมูลการวิจัยพบว่า ปัจจุบันร้านกาแฟสดในเมืองไทยยังมีอนาคตสดใส  เนื่องจากอัตราการดื่มกาแฟต่อคนยังต่ำมากเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศในแถบยุโรปและอเมริกา ด้วยเหตุนี้  ปตท. ได้เล็งเห็นถึงโอกาสทางการธุรกิจที่จะนำเอาร้านกาแฟที่มีมาตรฐานมาให้บริการภายในสถานีบริการ  โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มความสมบูรณ์ให้กับสถานีบริการ สามารถตอบสนอง Life Style ของผู้ใช้บริการได้อย่างครบถ้วน Café Amazon จึงถือกำเนิดขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2546

ชื่อ Café Amazon มีที่มาจาก  แหล่งกาแฟที่มีชื่อเสียงของโลก คือประเทศบราซิลซึ่งเป็นต้นตำรับแห่งกาแฟ
ผนวกกับเมื่อคิดถึงป่า Amazon ก็จะคิดถึงความร่มรื่นของธรรมชาติอันประกอบด้วยแมกไม้และเสียงน้ำไหลที่ให้ความร่มเย็น
Café Amazon มีแนวคิดที่อยากให้เป็นร้านกาแฟที่สามารถนั่งพักผ่อนระหว่างการเดินทาง หรือเป็นแหล่งนัดพบของกลุ่มผู้บริโภครุ่นใหม่ที่นิยมดื่มกาแฟที่มีรสชาติอร่อยเข้มข้น พร้อมบรรยากาศเย็นสบายด้วยร่มไม้ล้อมรอบ

ปี 2545 -2547 เริ่มสร้างการรับรู้ของแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น โดยในระยะแรกมีการขยายสาขาไปยังสถานีบริการต่างๆ ในเขตกรุงเทพและปริมณฑล รวมทั้งเส้นทางหลักที่จะมุ่งไปสู่จังหวัดในภาคต่างๆ  และต่อมาได้ขยายไปสู่ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคเหนือ ซึ่งในช่วงระยะเวลา 3 ปีแรกนี้ Café Amazon มีสาขามากกว่า 100 สาขากระจายอยู่ทั่วประเทศ

ต่อมาในปี 2547 – 2550 เป็นยุคที่ Café Amazon สามารถขยายและเพิ่มจำนวนสาขาไปกับสถานีบริการน้ำมัน ปตท. ที่ได้มีการปรับปรุงภาพลักษณ์ให้มีความทันสมัย รวมทั้งได้มีการปรับพื้นที่บริเวณโดยรอบของห้องน้ำให้เป็นพื้นที่สีเขียว  จึงเป็นโอกาสที่ทำให้ร้านกาแฟ Café Amazon ภายในสถานีบริการ ปตท. ทำหน้าที่เป็นเสมือน “ห้องรับรองแขกผู้มาเยือน” ของสถานีบริการน้ำมัน ปตท. และในปี 2550 Café Amazon เป็นร้านกาแฟมีสาขาจำนวนมากที่สุดในประเทศไทยถึง 230 สาขา

ต่อมา Café Amazon เห็นว่า ฐานลูกค้าไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะในกลุ่มคนเดินทางอีกต่อไป
ดังนั้น ปตท. จึงเริ่มขยายธุรกิจออกสู่ภายนอกสถานีบริการภายใต้ระบบ Franchise เพื่อให้ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างทั่วถึง และยังช่วยให้สามารถขยายฐานธุรกิจออกไปได้อย่างรวดเร็ว โดย Café Amazon ได้เริ่มขาย Franchise ให้กับผู้สนใจและบุคคลทั่วไปตั้งแต่เดือนเมษายน 2555 ที่ผ่านมา ซึ่งพื้นที่เป้าหมายจะเน้นทำเลที่เป็น Discount Store อาคารสำนักงาน โรงพยาบาล สถานศึกษา และในหน่วยงานราชการต่างๆ

ติดตามเรื่องกาแฟ ได้ที่ "มุมกาแฟ"
เรียบเรียงโดย เที่ยวกับชัย

Friday, October 16, 2015

รูปถ่ายจักรยานเอง เอาไว้ดู จัดว่าสวย จักรยานฟิกเกียร์สวยๆ

รูปถ่ายจักรยานเอง เอาไว้ดู จัดว่าสวย จักรยานฟิกเกียร์สวยๆ


หลังจากซ่อม จักรยานฟิกเกียร์ ใส่เบรค ใส่ Single speed gear ก็ได้ปั่น หยุดพัก ถ่ายรูปสวยๆ แต่คิดว่าสวย ราคาจักรยานฟิกเกียร์ไม่แพง แต่ก็เอาไว้ปั่นออกกำลังกาย หลังจากร้างราการออกกำลังกายมานาน ก็ได้จักรยานนี่ละช่วย จะวิ่งออกกำลังกายก็ไม่ใหว ปวดเข่า

รูปจักรยานฟิกเกียร์ถูกถ่ายด้วยกล้อง SJ4000 Wifi action camera ขนาด 12M ถ่ายล้อ ยาง ถ่ายภาพบรรยากาศยามเย็น

รูปถ่ายจักรยานฟิกเกียร์สวยๆ
รูปถ่ายจักรยานฟิกเกียร์สวยๆ

ใส่เบรคให้ฟิกเกียร์
ใส่เบรคให้ฟิกเกียร์

ใส่ Single Speed ให้ฟิกเกียร์
ใส่ Single Speed ให้ฟิกเกียร์




ปั่นจักรยาน ยามพระอาทิตย์ตก
ปั่นจักรยาน ยามพระอาทิตย์ตก

ปั่นกลับบ้านแล้ว
ปั่นกลับบ้านแล้ว
รูปถ่ายจักรยานเอง จักรยานฟิกเกียร์สวยๆ ภาพถ่ายยามเย็น ปั่นออกกำลังกาย ต่อสู้กับการทำงานวันใหม่ ถ้ามีภาพถ่ายจะเอามาลงอีก
รูปโดย เที่ยวกับชัย