Tuesday, February 28, 2017

ประโยชน์ 10 อย่างของการดื่มชา

ประโยชน์ 10 อย่างของการดื่มชา

เครื่องดื่ม ชา เป็นที่นิยมมาช้านาน สามารถดื่มได้ทั้งชาร้อน และชาเย็น แต่ใครจะรู้มากน้อยประโยชน์ของการดื่มชาที่มีมากกว่า ได้มีการค้นหาข้อมูลประโยชน์ของการดื่มชาที่ดีต่อสุขภาพ อย่างน้อยการดื่มชา น้ำชาที่เป็นของเหลวเข้าสู่ร่างกายเรา จะสามารถช่วยป้องโรคเกี่ยวกับฟันและหัวใจได้ และช่วยป้องการโรคมะเร็งได้อีกด้วย

คุณประโยชน์ 10 อย่างของการดื่มชา

สารต้านอนุมูลอิสระ  มีหน้าที่ป้องกันรุ่นของร่างกายของสนิมจึงช่วยให้เราหนุ่มสาวและปกป้องเราจากความเสียหายที่เกิดจากมลภาวะ

Tuesday, February 21, 2017

ภาพถ่ายจาก สนามเด็กเล่น ด้วยกล้องมือถือ

ภาพถ่ายจาก สนามเด็กเล่น ด้วยกล้องมือถือ

ได้วิ่งออกกำลังกาน เลยเก็บภาพถ่ายจาก สนามเด็กเล่นแห่งหนึ่ง ถ่ายด้วยกล้องมือถือ Vivo V3 แต่ละภาพก็เป็นรูปต่างๆ เช่น กวาง ม้าหมุน ภาพสนามหญ้า สไลท์เอดร์ ภาพแต่ละภาพแสดงถึงสีแห่งความสดใส นำมาแบ่งปันให้ได้ชมกัน



Advertisment


ภาพถ่ายจาก สนามเด็กเล่น
ภาพถ่ายจาก สนามเด็กเล่น

ภาพสนามหญ้า
ภาพสนามหญ้า จากสนามเด็กเล่น

ม้าหมุน สนามเด็กเล่น
ม้าหมุน สนามเด็กเล่น


น้องกวาง
น้องกวาง จากสนามเด็กเล่น

โต๊ะนั่งชิงช้า
โต๊ะนั่งชิงช้า



Advertisment


ภาพมุมสวย จากสนามเด็กเล่น
ภาพมุมสวย จากสนามเด็กเล่น

มุมภาพสวยๆ ภาพถ่ายจาก สนามเด็กเล่นของ https://likeougtravel.blogspot.com/ 

เคล็ดลับ เข้าห้องน้ำสาธารณะให้ปลอดภัย

เคล็ดลับ เข้าห้องน้ำสาธารณะให้ปลอดภัย

ห้องน้ำสาธารณะ หรือห้องน้ำปั๊ม เป็นที่คนใช้เยอะมาก และอันที่ใช้มากที่สุดก็เป็นกลอนล็อคประตูห้องน้ำนั่นเอง ซึ่งเป็นที่มีเชื้อโรคสะสมมาก มีวิธีแนะนำการใช้ ห้องน้ำสาธารณะที่ปลอดภัยมากที่สุด แต่ก่อนอื่นต้องไปดูก่อนว่ากลอนล็อกห้องน้ำที่เห็นใช้กันอยู่ว่าเป็นแบบใหน



Advertisment


กลอนล็อคประตูห้องน้ำ
กลอนล็อคประตูห้องน้ำสาธารณะ
พยายามหลีกเลี่ยงที่จะล็อคเปิดหรือปิดประตูห้องน้ำโดยใช้ตำแหน่งบิด เพราะตำแหน่งนี้จะเป็นที่คนใช้เยอะมาก 

กลอนล็อคประตูห้องน้ำ
หลีกเลี่ยง ตำแหน่งกลอนล็อคประตูห้องน้ำ

ให้ใช้นิ้วชี้ ทำการเปิดหนือปิดกลอนล็อคห้องน้ำเพราะคนใช้น้อย แต่เราใช้
กลอนล็อคประตูห้องน้ำ
กลอนล็อคประตูห้องน้ำ ใช้ตามรูป

เปิด หีือ ปิด กลอนล็อคประตูห้องน้ำ
เปิด หีือ ปิด กลอนล็อคประตูห้องน้ำ ที่ถูกอนามัย

 ที่สำคัญ หลังจากใช้ห้องน้ำสาธารณะแล้วให้ล้างมือด้วยน้ำเปล่า และสบู่ และถ้าให้ดีก็เช็มือด้วยกระดาษทิชชู จะเป็นการดีต่อสุขภาพและปลอดภัยมากที่สุด


Advertisment


เคล็ดลับดีๆ จาก https://likeougtravel.blogspot.com/    ช่วยแชร์และบอกต่อด้วยจ้า


Friday, February 17, 2017

วิธีต้มไข่สุดแปลง ไข่หมกด้วยมันฝรั่ง

วิธีต้มไข่สุดแปลง ไข่หมกด้วยมันฝรั่ง

ไข่ต้มด้วยมันฝรั่ง เป็นคลิปของฝรั่งเข้าป่า และไม่มีภาชนะต้มไข่ แต่มีมันฝรั่ง Potato ติดตัวไปด้วย และก็ได้มีการสาธิตวิธีการ หมกไข่จากมันฝรั่ง เหมือนกับการหมกมันเหมือนบ้านเรา แต่นี่เป็นการเจาะเนื้อมันฝรั่งออกแล้วก็ตอกไข่ใส่เข้าไปในมันฝรั่ง แล้วก็ปิดฝา จากนั้นก็นำไปหมกในกองฟืน ใช้เวลาหมกประมาณ 25 นาที ผลออกมา ก็ได้กินไข่หมก ได้กินทั้งมันฝรั่ง แปลกดี

ใครที่เดินป่า ก็ลองวิธีนี้ดู น่าสน หรือจะทำให้เด็กที่บ้านก็ได้นะ ถือว่าเป็นกิจกรรมวันหยุด ยามว่างก็ได้ ไปดู Video Clip กันเลยครับ ที่มียอดวิวเป็น 10 ล้านวิว



Advertisment


Wednesday, February 15, 2017

คลิปดัง!! เมื่อคนป่าอัฟริกาได้กินไอติมครั้งแรก สุดจะบรรยายจริงๆ

คลิปดัง!! เมื่อคนป่าอัฟริกาได้กินไอติมครั้งแรก สุดจะบรรยายจริงๆ

#คลิปดัง
เห็นคนอัฟริกากินไอติมแล้ว คิดว่า ผู้เชี่ยวชาญ นักชิมอาหารบ้านเราอายเป็นแน่แท้ กินไป ฟินไป กินไป ทั้งร้องให้ ติดใจในรสของไอติม สุดๆ จริงๆ



Advertisment


เกษตร: วิธีเลี้ยงไส้เดือน การดูแล การให้อาหาร

เกษตร: วิธีเลี้ยงไส้เดือน การดูแล การให้อาหาร

#วิธีเลี้ยงไส้เดือน #การให้อาหาไส้เดือน #ปุ๋ยมูลไส้เดือน




Advertisment


ปุ๋ยมูลไส้เดือน
ปุ๋ยมูลไส้เดือน 

การเพาะเลี้ยงไส้เดือน โดยใช้ขยะอินทรีย์ต่างๆเป็นอาหาร เช่น เศษผัก ผลไม้ กากเมล็ดกาแฟ ขี้เลื่อย ก้อนเชื้อเห็ดที่ทิ้งแล้ว หรือมูลสัตว์ต่างๆ เหตุผลในการเลือกไส้เดือนสายพันธุ์แอฟริกา เนื่องจากเป็นสายพันธุ์ที่เลี้ยงง่าย โตไว ขยายพันธุ์เร็ว เหมาะใช้สำหรับย่อยสลายขยะ และผลิตปุ๋ยมูลไส้เดือน หรือนำไปเลี้ยงขยายพันธุ์ต่อเพื่อการเกษตรอื่นๆส่วนใหญ่นิยมเลี้ยงเพื่อเชิงพาณิชย์

วัสดุ-อุปกรณ์ 

1.ก้อนเชื้อเห็ดเก่า 3 กิโลกรัม
2.พ่อแม่พันธุ์ไส้เดือน 0.5 กิโลกรัม
3.ขี้ไก่ 0.5 กิโลกรัม
4.กะละมังพลาสติก 1 ใบ
*ส่วนผสมนี้สามารถปรับเปลี่ยนได้ ขึ้นอยู่กับวัถุดิบที่มีอยู่
วิธีการทำอยู่ใต้ภาพนะครับ

อาหารใส้เดือน
อาหารใส้เดือน

การดูแล-ให้อาหาร 

-ให้สังเกตุสีของก้อนเชื้อเห็ดที่ใช้เป็นแหล่งที่อยู่ของไส้เดือนจะเปลี่ยนจากสีขาว เป็นสีดำหรือดำออกน้ำตาล หลังจากนั้นสามารถให้อาหารได้ เช่น เศษผัก ผลไม้ กากเมล็ดกาแฟ เป็นต้น
-หากสังเกตุเห็น ไส้เดือนเริ่มออกมาอยู่ตามขอบกะละมัง แสดงว่าไส้เดือนย่อยสลายอาหารที่ใส่ลงไปหมดแล้ว และต้องการอาหารเพิ่ม
-ควรหมั่นรดน้ำ เมื่อสังเกตุเห็นว่าวัสดุที่ใช้เลี้ยงเริ่มแห้งการพาะเลี้ยงไส้เดือนสายพันธุ์แอฟริกา ใช้เวลา 30-45 วัน ไส้เดือนจะเริ่มขยายพันธุ์และผู้เลี้ยงก็จะได้ปุ๋ยขี้ไส้เดือนมาใช้บำรุงพืชตามต้องการ แถมยังสามารถนำไส้เดือนออกมาขยายเลี้ยงเพิ่มได้อีกด้วย

ปุ๋ยมูลไส้เดือน
ปุ๋ยมูลไส้เดือน 

ข้อดีของปุ๋ยมูลไส้เดือน 

1.เป็นปุ๋ยที่มาจากธรรมชาติ และไม่มีกลิ่น 
2.ไม่เป็นอันตรายต่อพืช หากใช้ในอัตราส่วนที่สูง ช่วยให้รากออกเร็วขึ้น 
3.ปรับปรุงคุณภาพดิน ลักษณะของมูลไส้เดือนเป็นเม็ดเล็กๆ ช่วยปรับปรุงให้ดินไม่แน่นเกินไป ส่งผลให้รากใหญ่ และเจริญเติบโตเร็ว 
4.มีจุลินทรีย์และสิ่งมีชีวิตมากมาย ที่เป็นประโยชน์ต่อพืช ซึ่งไม่สามารถพบได้ในมูลสัตว์ หรือปุ๋ยหมักอื่นๆ 
5.มีธาตุอาหารรองมากมายที่พืชต้องการ และมีฮอร์โมนซึ่งช่วยกระตุ้นการเจริญ





ขั้นตอนการทำ 

-นำก้อนเชื้อเห็ดเก่ามาบดให้ละเอียด คลุกเคล้ากับขี้ไก่ ให้เข้ากัน
-นำส่วนผสมใส่ลงในภาชนะให้ได้ 3 ส่วน 4 ของกะละมัง แล้วทำการรดน้ำลงในกะละมังให้ชุ่ม พักทิ้งไว้ 1 คืน(เพื่อให้ส่วนผสมคายความร้อน)
-วันรุ่งขึ้น นำพ่อแม่พันธุ์ไส้เดือน 0.5 กิโลกรัม ใส่ลงในกะละมัง โดยขุดดินขึ้นเล็กน้อยแล้วนำไส้เดือนใส่ลงไป จากนั้นกลบดินทับบางๆ


Advertisment


ที่มา:  เกษตรฮอตนิวส์ สาระความรู้ ด้านการเกษตร 

ฟังเพลงป้าง คู่ชีวิต พร้อมคอร์ดและเนื้อร้อง

ฟังเพลงป้าง คู่ชีวิต พร้อมคอร์ดและเนื้อร้อง


เพลงนี้ คู่ชีวิต ป้าง จากชุด หัวโบราณ ฟังกี่ครั้งก็เพราะเหมือนเดิม




Advertisment







Advertisment



ขอบคุณ คอร์ดจาก http://chordtabs.in.th

ฟังเพลงหมอลำเก่า สุดยอดเพลงหมอลำในอดีต ฟังยาวๆ

ฟังเพลงหมอลำ สุดยอดเพลงหมอลำในอดีต ฟังยาวๆ

เพลงหมอลำแท้ มีเสนห์ในตัวของมัน เสียงคนร้องกับเสียงแคน เสียงพินเข้ากัน หาฟังยาก
01 ปากโกรธใจคิดถึง
02 เกี่ยวข้าวคอยนาง
03 อดีตรักริมโขง
04 หนุ่มภูเขียวเบี้ยวสาวชุมแพ
05 ผิดหรือที่พี่จน
06 ตามใจแม่เถิดน้อง
07 อยากเห็นคนโชคดี
08 สาวหมอลำจำได้
09 เต้ยแล้วแต่วาสนา
10 กุหลาบแดง
11 คนไกลบ้าน
12 ฝันรักฝันร้าย
13 เรียนก่อนแม่สอนไว้
14 ศันสนีย์หนี่ช้ำ
15 น้ำตาสาวเย็บผ้า
16ได้เพียงแค่คิดถึง
17 ทนหนาวไม่ไหว
18 ขอแล้วไม่แต่ง
19 หนุ่มนานครพนม
20 อดีตรักวันนำเที่ยว
21 แอบรักน้องนวล
22 ฝากซองกินดองแทน
23 เหนือคำสาบาน
24 มนต์รักผักขะแยง
25 กลับเถิดจันทร์จ๋า
26 อวยพรวันวิวาห์




Advertisment


รู้จักดินปลูก การบำรุงดินก่อนปลูกผัก จากกรมวิชาการเกษตร

รู้จักดินปลูก การบำรุงดินก่อนปลูกผัก จากกรมวิชาการเกษตร

จะทราบได้อย่างไรว่าดินนี้เหมาะสมต่อการปลูกพืช ดิน เป็นที่อยู่ของรากพืชซึ่งทำหน้าที่ดูดน้ำและอาหารไปเลี้ยงส่วนต่างๆของลำต้น ที่อยู่เหนือดิน รากพืชต้องใช้พลังงานซึ่งได้จากการหายใจในการดูดน้ำและอาหารจากดิน ดังนั้น ดินที่เหมาะสมต่อการปลูกพืชจะต้องเป็นดินที่มีการระบายน้ำและถ่ายเทอากาศดี ( การแลกเปลี่ยนออกซิเจนระหว่างอากาศในดินและอากาศเหนือดินเกิดขึ้นได้ดี ) และมีธาตุอาหารที่เพียงพอต่อการเจริญเติบโตของพืช นอกจากนี้ ยังควรมีระดับความเป็นกรด - ด่างที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตและการละลายได้ของธาตุอาหารที่จำเป็นต่อการ เจริญเติบโตและให้ผลผลิตของพืช ถ้าพืชมีการเจริญเติบโตไม่ดี ปัจจัยแรกที่ควรพิจารณาคือระบบรากของพืช เกษตรกรควรตรวจดูว่ารากมีการเจริญเติบโตเป็นอย่างไร มีปัจจัยแวดล้อมที่ไม่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตและการทำงานของรากหรือไม่ โครงสร้างของดินและความสมบูรณ์ของดินมีผลต่อการเจริญเติบโตและการทำงานของ รากเป็นอย่างมาก การใช้มือจับหรือสัมผัสก้อนดินสำหรับผู้ที่มีความชำนาญแล้วสามารถบอกถึงโครง สร้างหรือความร่วนซุยของดินได้อย่างหยาบๆ แต่การวิเคราะห์ดินจะบอกได้ว่าดินนี้เหมาะสมต่อการปลูกพืชหรือไม่ เกษตรกรควรต้องมีการปรับปรุงดินอย่างไรให้เหมาะสมกับความต้องการของพืชที่จะ ปลูก นอกจากนี้ การวิเคราะห์ดินยังสามารถบอกถึงปริมาณธาตุอาหารต่างๆที่มีอยู่ในดิน ทำให้เกษตรกรทราบได้ว่าควรต้องมีการใส่ปุ๋ยเพิ่มแก่พืชหรือไม่ และควรจะใส่ปุ๋ยอะไร

การเก็บตัวอย่างดินเพื่อวิเคราะห์ 

การ เก็บตัวอย่างดินเพื่อการวิเคราะห์นั้นเกษตรกรควรเก็บตัวอย่างให้เป็นตัวแทน ที่ดีของพื้นที่ที่จะเพาะปลูก ( ภาพที่ 1) การเก็บตัวอย่างผิดหรือไม่เป็นตัวแทนที่ดีจะไม่ได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ใน การปรับปรุงดิน เป็นการเสียเวลา และค่าใช้จ่ายโดยเปล่าประโยชน์

การเก็บตัวอย่างดินก่อนปลูก

ก่อนการเก็บตัวอย่างดินนั้นเกษตรกรควร มีข้อมูลพื้นฐานของพืชที่จะปลูกก่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งความลึกของระบบราก เพื่อที่จะได้เก็บตัวอย่างดิน ตามความลึกของระบบราก พืชที่จะปลูก เช่น พืชมีระบบรากลึก 30 ซม . แต่รากส่วนใหญ่แผ่กระจายบริเวณใกล้ผิวดิน การเก็บตัวอย่างก็ควรแบ่งเป็น 2 ระดับความลึก คือ 0- 15 ซม . และ 15- 30 ซม . ก่อนเก็บตัวอย่างควรถากหญ้าที่ผิวดินออกก่อนแล้วใช้สว่านเจาะดินระดับ 0-15 และ 15- 30 ซม . ควรเจาะดินจากหลายๆจุดแล้วนำดินที่เจาะที่ระดับความลึกเดียวกันมาผสมรวมกัน ก่อนแบ่งมาเพียงตัวอย่างละ 0.5 กก . เพื่อส่งวิเคราะห์ ดินที่เก็บมาควรใช้เป็นตัวแทนของดินทั้งสวนได้ ถ้าสวนมีพื้นที่ใหญ่มากก็ควรแบ่งพื้นที่สวนออกเป็นแปลงเล็กก่อน เช่น แบ่งเป็นแปลงละประมาณ 10 ไร่ และในพื้นที่ 10 ไร่นี้ก็ใช้สว่านเจาะดินประมาณ 20 จุด แล้วนำดินที่เจาะได้มาผสมรวมกัน แล้วแบ่งส่งวิเคราะห์ประมาณ 0.5 กก . ถ้าไม่มีสว่านเจาะดินก็ใช้จอบขุดดินแทนได้โดยใช้จอบขุดดินลึกเป็นรูปสาม เหลี่ยมแล้วใช้พลั่วมือค่อยๆแซะดินจากผิวดินลึกลงไปตามความลึกของหลุมที่ขุด ไว้ ทำแบบเดียวกันนี้หลายๆจุด นำดินที่ขุดได้มาผสมรวมกันแล้วแบ่งส่งวิเคราะห์ประมาณ 0.5 กก . เช่นเดียวกัน

การเก็บตัวอย่างดินหลังปลูก

ควรเก็บดินใต้ทรงพุ่มของต้น โดยเก็บดินบริเวณชายพุ่ม เก็บรอบต้นประมาณ 3-4 จุด และเก็บจากหลายๆต้นมารวมกันแล้วแบ่งส่งวิเคราะห์ประมาณ 0.5 กก . เกษตรกรอาจแบ่งสวนเป็นแปลงเล็กก่อนเก็บดินแบบเดียวกับการเก็บตัวอย่างดิน ก่อนปลูกก็ได้ สำหรับระดับความลึกที่ควรเก็บขึ้นอยู่กับความลึกของระบบราก ถ้าต้นไม้ผลยังเล็กอยู่ก็เก็บดินลึก 15 หรือ 30 ซม . เมื่อต้นโตขึ้นและรากเจริญเติบโตมากขึ้นก็ควรเก็บตัวอย่างดิน 2 ระดับความลึก โดยเก็บที่ระดับความลึก 0-15 และ 15-30 หรือ 0-30 และ 30- 60 ซม . แล้วแต่ความลึกของระบบราก เกษตรกรควรเก็บดินวิเคราะห์ทันทีหลังการเก็บเกี่ยวผลผลิตเสร็จแล้วเพื่อตรวจ ดูคุณสมบัติของดินและระดับธาตุอาหารในดินว่าเป็นอย่างไร เกษตรกรจะต้องมีการจัดการหรือปรับปรุงดินอย่างไรให้เหมาะสมกับความต้องการ ของพืช

ส่วนประกอบของดินที่เหมาะสมกับการเจริญเติบโตของพืช


ดินที่ดีควรมีส่วนที่เป็นของแข็ง 50% ซึ่งประกอบด้วยส่วนที่เป็นอนินทรียสาร 45% และอินทรียสาร 5% และส่วนที่เป็นน้ำ และอากาศอย่างละ 25% โดยปริมาตร สำหรับสัดส่วนของน้ำและอากาศนั้นจะผันแปรตามสภาพการให้น้ำหรือการตกของฝนและ ความสามารถในการระบายน้ำหรือดูดยึดน้ำของดิน เช่น หลังการให้น้ำหรือฝนตกใหม่ๆส่วนน้ำจะมีมากกว่าส่วนของอากาศ แต่เมื่อดินแห้งส่วนของอากาศจะมากกว่าส่วนที่เป็นน้ำ เป็นต้น องค์ประกอบต่างๆของดินเหล่านี้มีคุณสมบัติหรือหน้าที่ที่แตกต่างกัน ดังนี้คือ
?? อนินทรียสาร เป็นแหล่งกำเนิดของธาตุอาหารของพืชและจุลินทรีย์ดิน และเป็นส่วนที่ควบคุมลักษณะเนื้อดิน
?? อินทรียสาร เป็นแหล่งพลังงานของจุลินทรีย์ดิน และเป็นส่วนที่ควบคุมโครงสร้างของดิน
?? น้ำ ให้น้ำแก่พืชและเป็นตัวทำละลายธาตุอาหารต่างๆในดินเพื่อให้รากพืชดูดไปใช้ประโยชน์ได้
?? อากาศ ให้ออกซิเจนแก่รากพืชใช้ในการหายใจและช่วยในขบวนการย่อยสลายของวัสดุ อินทรีย์โดยจุลินทรีย์ดิน ดินที่มีน้ำขัง ดินที่มีปริมาณอนุภาคดินเหนียวที่มีการพองตัวมากจนช่องอากาศเล็กลงเมื่อดิน เปียก และขบวนการย่อยสลายวัสดุอินทรีย์เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ออกซิเจนในดินลดลง

โครงสร้างดินไม่ดีควรทำอย่างไร?

โครงสร้างดิน เป็นการเกาะตัวกันของอนุภาคดินเป็นเม็ดดินหรือก้อนดิน มีขนาดเล็กขนาดเม็ดทรายหรือขนาดใหญ่หลายเซนติเมตร ซึ่งอาจเกิดขึ้นโดยธรรมชาติ หรือเกิดจากการไถพรวน ช่องว่างที่เกิดขึ้นระหว่างก้อนดินจะมีขนาดใหญ่เป็นที่อยู่ของอากาศ แต่ช่องว่างภายในก้อนดินจะมีขนาดเล็กเป็นที่อยู่ของน้ำทำให้ดินมีคุณสมบัติ ในการอุ้มน้ำไว้ได้ อนุภาคดินที่มีการเกาะตัวกันอย่างดีจะมีช่องขนาดใหญ่และมีความต่อเนื่องของ ช่องทำให้รากพืชเจริญเติบโตได้ดี ดินแน่นทึบเกินไปจะมีการระบายน้ำไม่ดี หรือดินโปร่งเกินไปก็จะไม่อุ้มน้ำ ฮิวมัสจัดเป็นสารเชื่อมอนุภาคดินให้เกาะตัวกันได้ดี ดังนั้นการเพิ่มอินทรีย์วัตถุให้แก่ดินเหล่านี้จะช่วยให้ดินมีโครงสร้างที่ ดีขึ้น ดินที่แน่นทึบก็จะร่วนซุยขึ้น มีการระบายน้ำดีขึ้น ส่วนดินทรายเนื้อหยาบก็จะมีการเกาะตัวกันมากขึ้น ทำให้มีการอุ้มน้ำได้มากขึ้น ดินดูดซับธาตุอาหารไว้ได้มากขึ้น การเพิ่มอินทรีย์วัตถุให้แก่ดินทำได้โดยการใส่ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก การปลูกพืชตระกูลถั่วแล้วไถกลบเป็นปุ๋ยพืชสด และวัสดุอินทรีย์อื่นๆ

ความอุดมสมบูรณ์ของดินต่ำควรทำอย่างไร


พืชมีความต้องการธาตุอาหารในการเจริญ เติบโตและให้ผลผลิต ธาตุอาหารที่จำเป็นสำหรับพืชมีอยู่ด้วยกัน 16 ธาตุ คือ คาร์บอน ไฮโดรเจน และออกซิเจน ซึ่งพืชได้มาจากอากาศและน้ำ ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม แคลเซียม แมกนีเซียม กำมะถัน เหล็ก แมงกานีส ทองแดง โบรอน สังกะสี โมลิบดีนัม และ คลอรีนซึ่งพืชได้มาจากดิน อินทรีย์วัตถุในดินเป็นแหล่งสะสมหลักของธาตุอาหารที่มีประจุลบ (nutrient anions) ในปริมาณมาก การสลายตัวของอินทรีย์วัตถุโดยกิจกรรมของแบคทีเรีย รา และแอคติโนมัยซิสจะทำให้ธาตุอาหารเหล่านี้เป็นประโยชน์ต่อพืชได้ 95% ของไนโตรเจน 50% หรือมากกว่าของฟอสฟอรัส และ 80% ของกำมะถันทั้งหมดในดินเป็นองค์ประกอบอยู่ในอินทรีย์วัตถุ นอกจากนี้ แหล่งสะสมของโบรอน และโมลิบดีนัมในดินก็อยู่ในอินทรีย์วัตถุ และยังดูดซับอยู่กับออกไซด์ของเหล็กและอะลูมินัม และสารประกอบไฮดรอกไซด์
เนื่องจากธาตุอาหารในดินที่อยู่ในรูป ของสารละลายดินจะถูกดูดไปโดยรากพืช ธาตุอาหารเหล่านี้จะถูกทดแทนได้จากธาตุต่างๆที่ดูดซับอยู่ที่แร่ดินเหนียวใน ดิน และที่ฮิวมัสโดยขบวนการแลกเปลี่ยนประจุ (cation exchange) หรือโดยการสลายตัวอย่างช้าๆของแร่ธาตุในดินและโดยการสลายตัวอย่างรวดเร็วของ อินทรีย์วัตถุในดิน อย่างไรก็ตาม อัตราการทดแทนของธาตุอาหารเหล่านี้ช้ากว่าอัตราที่พืชดูดไปจากดินเพื่อใช้ใน การเจริญเติบโตและสร้างผลผลิต ดังนั้น เมื่อตรวจพบว่าปริมาณธาตุอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตและให้ผลผลิตของ พืชในดินมีอยู่น้อย เกษตรกรควรต้องเพิ่มธาตุอาหารให้แก่ดินในรูปของปุ๋ย

ปุ๋ยคืออะไร

ปุ๋ย คือสารอินทรีย์หรืออนินทรีย์ใดๆที่ใส่ในดินแล้วให้ธาตุอาหารพืช แบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือ
?? ปุ๋ยอินทรีย์ ได้แก่ ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก และปุ๋ยพืชสด
?? ปุ๋ยคอก ได้แก่มูลสัตว์ต่างๆ เป็นแหล่งสำคัญของอินทรียวัตถุและธาตุอาหารพืช
?? ปุ๋ยหมัก ได้แก่ การนำเศษพืชต่างๆมาหมัก เศษพืชที่มีค่า C/N ratio กว้างจะย่อยสลายได้ช้า ดังนั้น จึงมีการเติมธาตุอาหารไนโตรเจนให้แก่กองปุ๋ยหมัก ในการหมักสัดส่วนของคาร์บอน / ไนโตรเจนจะต้องแคบเข้าจนกระทั่งมีค่าประมาณ 15/1 จึงจะสามารถนำไปใส่ให้แก่พืชได้โดยที่ไม่มีการแย่งธาตุอาหารไนโตรเจนในดิน จากพืช นอกจากนี้ในระหว่างการหมักอาจมีการเติมธาตุอาหารอื่นๆนอกเหนือจากการเติม ธาตุไนโตรเจน
?? ปุ๋ยพืชสด ได้แก่ พืชตระกูลถั่วต่างๆที่ถูกไถกลบลงไปในดิน พืชตระกูลถั่วมีแบคที่เรียอาศัยอยู่ที่รากและสามารถตรึงไนโตรเจนจากอากาศได้ โดยปกติจะไถกลบเมื่อพืชตระกูลถั่วกำลังออกดอกเพราะเป็นระยะที่พืชตระกูลถั่ว มีธาตุอาหารอยู่ในต้นสูงที่สุด การเพิ่มอินทรียวัตถุแก่ดินโดยการใช้ปุ๋ยพืชสดเป็นวิธีการที่นิยมใช้ปรับ ปรุงดินก่อนการปลูกพืชเพราะสามารถทำได้ง่าย ประหยัดค่าใช้จ่าย และเป็นการเพิ่มธาตุอาหารไนโตรเจนแก่ดิน
?? ปุ๋ยอนินทรีย์ ได้แก่ปุ๋ยเคมีต่างๆซึ่งสามารถแบ่งออกได้ตามชนิดของธาตุอาหารที่เป็นองค์ประกอบหลักของปุ๋ยนั้นๆ
?? ปุ๋ยที่ให้ธาตุอาหารหลัก คือ ปุ๋ยไนโตรเจน (46-0-0, 21-0-0, 15-0-0) ปุ๋ยฟอสฟอรัส (0-46-0, 0-20-0, 18-46-0, 0-52-34, 0-3-0) ปุ๋ยโพแทสเซียม (0-0-60, 0-0-50, 13-0-46)
?? ปุ๋ยที่ให้ธาตุอาหารรองซึ่งส่วนใหญ่เป็นวัสดุปูนที่ใช้ในการเกษตร เช่น ปูนขาว ปูนโดโลไมท์ หินปูนบด หินฝุ่น และที่อยู่ในรูปของปุ๋ยและสารเคมี เช่น แคลเซียมไนเตรท แคลเซียมคลอไรด์ แคลเซียมซัลเฟต ( ยิบซั่ม ) แมกนีเซียมซัลเฟต ( ดีเกลือ กลีเซอร์ไรท์ ) และผงกำมะถัน
?? ปุ๋ยที่ให้จุลธาตุอาหารซึ่งพืชต้องการใช้ในปริมาณน้อย ส่วนใหญ่จะอยู่ในรูปของปุ๋ยเกล็ดที่มีทุกธาตุรวมกันสำหรับใช้พ่นทางใบ แต่ที่อยู่ในรูปสารเคมีที่ใช้เป็นปุ๋ยเดี่ยวให้ทางดินและใบได้ คือ ทองแดง ( คอปเปอร์ซัลเฟต ) โบรอน ( บอแรกซ์ กรดบอริค ) เหล็ก ( เหล็กซัลเฟต ) แมงกานีส ( แมงกานีสซัลเฟต แมงกานีสคลอไรด์ ) และสังกะสี ( สังกะสีซัลเฟต สังกะสีออกไซด์ ) และอยู่ในรูปของสารประกอบคีเลทที่มีราคาแพง เช่น เหล็กคีเลท และแมงกานีสคีเลท เป็นต้น


ข้อควรคำนึงในการใส่ปุ๋ย?


ในการ ใส่ปุ๋ยแก่พืชเกษตรกรไม่ควรใส่ชิดโคนต้นแต่ควรใส่ให้ห่างโคนต้นอย่างน้อย 30 ซม . หรือในกรณีที่พืชมีทรงพุ่มขนาดใหญ่ เกษตรกรควรใส่ปุ๋ยโดยการหว่านโดยรอบทรงพุ่มจากบริเวณชายพุ่มเข้ามาถึงประมาณ ครึ่งหนึ่งของรัศมีทรงพุ่ม ( ภาพที่ 2) และเพื่อให้การใส่ปุ๋ยแต่ละครั้งมีการสูญเสียน้อยและพืชได้รับประโยชน์มาก ที่สุด เกษตรกรควรปฏิบัติดังนี้
1. เลือกชนิดของปุ๋ยที่ใส่ให้ถูกต้อง (right kind)
2. ใส่ปุ๋ยในปริมาณที่พอเหมาะ (right amount)
3. ใส่ปุ๋ยในเวลาที่พืชต้องการ (right time)
4. ใส่ปุ๋ยในบริเวณที่พืชเอาไปใช้ได้ง่าย (right place)

หลักการให้ธาตุอาหารแก่พืช 

เกษตรกรต้องเข้าใจว่า
?? ในบรรดาธาตุอาหารที่พืชต้องการไม่ว่าจะมากหรือน้อย ธาตุที่มีอยู่น้อยจะเป็นตัวจำกัดการเจริญเติบโตของพืช หรืออาจกล่าวได้ว่าพืชจะมีการตอบสนองต่อธาตุอาหารที่ใส่เมื่อดินขาดธาตุนั้น หรือมีธาตุนั้นอยู่ในปริมาณที่ต่ำ
?? การที่ใส่ธาตุอาหารเพิ่มแล้วมีการตอบสนองเพียงเล็กน้อยไม่ได้หมายความว่าถ้า ใส่ธาตุอาหารให้มากขึ้นพืชจะมีการตอบสนองมากขึ้น หรือมีการเจริญเติบโตมากขึ้น

จะทราบได้อย่างไรว่าพืชขาดอาหาร?

ลักษณะการขาดธาตุอาหารแต่ละชนิดของพืช เป็นลักษณะที่เฉพาะเจาะจง โดยทั่วๆไป อาการผิดปกติมักปรากฏที่ใบและถ้าขาดรุนแรงอาการจะปรากฏที่ผล เนื่องจากธาตุอาหารต่างๆมีความสามารถในการเคลื่อนย้ายในต้นพืชได้แตกต่างกัน อาการผิดปกติที่ใบเนื่องจากการขาดธาตุอาหารต่างกันจะปรากฏในตำแหน่งใบที่ ต่างกัน แต่เมื่ออาการผิดปกติเหล่านี้ปรากฏให้เห็นย่อมหมายถึงว่าอาการขาดธาตุอาหาร นั้นๆอยู่ในระยะที่รุนแรง พืชที่เริ่มขาดอาหารมักไม่ปรากฏอาการผิดปกติใดๆให้เห็นแต่จะมีผลกับปริมาณ และคุณภาพของผลผลิต การวิเคราะห์พืช เป็นวิธีการที่บอกให้ ทราบว่าพืชที่ปลูกอยู่นั้นเริ่มขาดอาหารหรือยัง แต่การแปลผลค่าวิเคราะห์พืชจะมีความถูกต้องและเกิดประโยชน์ได้นั้นต้องเริ่ม จากการเก็บตัวอย่างที่ถูกต้อง เกษตรกรควรปรึกษานักวิชาการเกษตรเพื่อขอคำแนะนำในการเก็บตัวอย่างที่ถูกต้อง


Advertisment



การวินิจฉัยและการคาดคะเนการขาดธาตุอาหาร

เกษตรกรสามารถวินิจฉัยหรือคาดคะเนการ ขาดธาตุอาหารในพืชได้โดยการสังเกตการเจริญเติบโตหรืออาการผิดปกติของพืช จากการวิเคราะห์ธาตุอาหารในดิน และจากการวิเคราะห์ธาตุอาหารในพืช อย่างไรก็ตาม แต่ละวิธีก็มีข้อดีและข้อจำกัดแตกต่างกัน การใช้ทุกวิธีร่วมกันจะเป็นวิธีที่ดีที่สุด

การวินิจฉัยจากการวิเคราะห์ดิน

การ วิเคราะห์ปริมาณธาตุอาหารในดินจะบอกให้ทราบได้ว่าดินมีความอุดมสมบูรณ์เพียง ใด โดยปกติเกษตรกรควรเก็บตัวอย่างดินวิเคราะห์เพื่อประเมินความอุดมสมบูรณ์ของ ดินก่อนปลูก และเพื่อปรับปรุงดินให้เหมาะสมกับความต้องการของพืช และควรวิเคราะห์ดินทุก 1-2 ปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังการเก็บเกี่ยวผลผลิตในแต่ละปีจะได้ทราบว่าธาตุอาหารใน ดินเหลืออยู่เพียงพอสำหรับการเจริญเติบโตและให้ผลผลิตที่มีคุณภาพหรือมีแนว โน้มว่าพืชจะขาดธาตุอาหารถ้าไม่มีการใส่ปุ๋ยเพิ่มเติมให้แก่ดิน จากผลการวิเคราะห์ดินพบว่าบางครั้งแม้ว่าดินจะมีธาตุอาหารอยู่มากพอแต่พืชก็ ยังมีอาการผิดปกติให้เห็นได้ ในกรณีนี้การปรับปรุงคุณสมบัติทางเคมีหรือกายภาพของดินอาจช่วยให้พืชเจริญ เติบโตเป็นปกติได้ โดยทั่วไปนักวิชาการเกษตรจะแนะนำให้เกษตรกรปรับปรุงดินให้มี pH 6-6.5 ซึ่งเป็นช่วง pH ที่ธาตุอาหารส่วนใหญ่ในดินมีความเป็นประโยชน์ต่อพืชมากที่สุด ดินที่ปลูกไม้ผลโดยทั่วไปควรมีธาตุอาหารอยู่ในเกณฑ์ดังแสดงในตารางที่ 1

การวินิจฉัยจากการสังเกตอาการ

อาการขาดธาตุอาหารส่วนใหญ่เป็นลักษณะ ค่อนข้างเฉพาะเจาะจงสำหรับแต่ละธาตุ ถ้าเกษตรกรมีความคุ้นเคยกับอาการต่างๆที่พืชแสดงออกเกษตรกรจะสามารถวินิจฉัย สาเหตุของความผิดปกติของต้นไม้ที่ปลูกได้จากการสังเกตดูอย่างใกล้ชิด แต่ก็มีอาการขาดของบางธาตุที่คล้ายกันมากจนยากที่จะระบุได้อย่างถูกต้องจาก การสังเกต และถ้ามีการขาดมากกว่า 1 ธาตุก็ยิ่งทำให้การวินิจฉัยทำได้ยากขึ้น ต้องอาศัยความชำนาญ หรือมีผลการวิเคราะห์พืชและดินเข้าช่วยด้วย

การวินิจฉัยจากการวิเคราะห์ใบ

เนื่อง จากพืชอาจมีการขาดธาตุอาหารแอบแฝง (hidden hunger) โดยที่ยังไม่แสดงอาการให้เห็นถ้าการขาดธาตุอาหารไม่รุนแรง การวิเคราะห์ความเข้มข้นของธาตุอาหารในใบพืชและนำผลวิเคราะห์มาเทียบกับค่า มาตรฐาน จะบอกให้ทราบได้ว่าพืชนั้นๆมีความสมบูรณ์อยู่ในระดับใด ดังนั้น เกษตรกรจึงควรมีการตรวจวัดระดับความสมบูรณ์ของพืชอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังการเก็บเกี่ยวผลผลิตในแต่ละปีเพื่อการแก้ไขปัญหาได้ อย่างถูกต้องและทันต่อเวลา

คุณสมบัติดินที่เหมาะสมต่อการปลูกพืช



คุณสมบัติดินค่าที่เหมาะสมการแก้ไขปรับปรุง
พีเอช (pH)
6-7
ดินกรดใส่ปูน ดินด่างใส่กำมะถันผงหรือใช้ปุ๋ยที่มีผลตกค้างเป็นกรด
อินทรียวัตถุ ( OM ; %)
2.5-3
ใสปุ๋ยอินทรีย์
ฟอสฟอรัส (P; ppm)
26-42
ใส่ปุ๋ย 0-46-0, 18-46-0, 0-52-34, 0-42-56
โพแทสเซียม (K; ppm)
130
ใส่ปุ๋ย 0-0-60, 0-0-50, 13-0-46
แคลเซียม (Ca; ppm)
1,040
ใส่ปูน หรือใส่ปุ๋ย 15-0-0
แมกนีเซียม (Mg; ppm)
135
ใส่ปูนโดโลไมท์ ดีเกลือ กลีเซอร์ไรท์
เหล็ก (Fe; ppm)
11-16
พ่นเหล็กคีเลท เหล็กซัลเฟต
แมงกานีส (Mn; ppm)
9-12
พ่นแมงกานีสคีเลท แมงกานีสซัลเฟต
ทองแดง (Cu; ppm)
0.9-1.2
พ่นจุนสี
โบรอน (B; ppm)
0.6-1.2
พ่นบอแร็กซ์ โซลูบอร์
สังกะสี (Zn; ppm)
0.9-3
พ่นสังกะสีคีเลท สังกะสีซัลเฟต


Advertisment




ข้อมูลอ้างอิงจาก http://oard1.doa.go.th/index.php?option=com_content&view=article&id=48&Itemid=12

Tuesday, February 14, 2017

บ้านแสนสุขเล้าเป็ดสร้างรายได้ ทำเล้าเป็ดแบบประหยัด

บ้านแสนสุขเล้าเป็ดสร้างรายได้ ทำเล้าเป็ดแบบประหยัด

ได้เห็นบ้านแสนสุขแชร์เลี้ยงเป็ด ขายไข่เป็ดแล้วก็อยากจะแชร์ต่อ การเลี้ยงก็ทำเล้าให้เป็ด ปูพื้นด้วยฟาง และก็ฟางนี้เองเป็นที่วางไข่ของเป็ด ก็เป็นแนวทางเลี้ยงเป็ดแบบพอเพียงและประหยัดมาก จำนวนเป็ดก็พอดี ไม่มาก ไม่น้อย ดูแลได้ทั่วถึง


Advertisment



ข้อมูลของ บ้านแสนสุขขายไข่เป็ด

บ้านหนองยางและละแวกใกล้เคียง ตำบลแวงดงอำเภอยางสีสุราชและอำเภอพยัคฆภูมิพิสัย จังหวัดมหาสารคาม ทุกท่านผมมีไข่เป็ดปลอดสารพิษที่เลี้ยงด้วยปลายข้าวและรำข้าวที่สีด้วยมือผมเองผสมกับหัวอาหารเป็ดเพื่อให้ได้ไข่คุณภาพให้ท่านบริโภคสนใจติดต่อได้ที่เบอร์089-9283523/089-9936276 ขายปลีกและส่งราคาไม่แพงครับ@บ้านนาแสนสุข

ไข่เป็ด
ไข่เป็ดบนฟางข้าว เป็นแนวคิดที่ยอดเยี่ยม เก็บง่าย ไข่ไม่แตก

ไข่เป็ด
ไข่เป็ดสวยๆ ไข่เป็ดอินทรีย์



เป็ดในเล้าอันแสนอบอุ่น
เป็ดในเล้าอันแสนอบอุ่น

ไม่ทราบว่ามีสระน้ำให้เป็ดได้ลงว่ายน้ำหรือเปล่า เพราะว่าไม่ได้บรรยาย แต่ก็ขอขอบคุณที่ได้แนะนำการเลี้ยงเป็ด ได้เป็นการทำเล้าเป็ดที่เรียกว่าเรียบง่ายแต่ได้ประโยชน์ แก่บุคคลทั่วไปครับ นับถือ

ข้อมูลของ บ้านแสนสุขขายไข่เป็ด




Advertisment



บ้านหนองยางและละแวกใกล้เคียง ตำบลแวงดงอำเภอยางสีสุราชและอำเภอพยัคฆภูมิพิสัย จังหวัดมหาสารคาม ทุกท่านผมมีไข่เป็ดปลอดสารพิษที่เลี้ยงด้วยปลายข้าวและรำข้าวที่สีด้วยมือผมเองผสมกับหัวอาหารเป็ดเพื่อให้ได้ไข่คุณภาพให้ท่านบริโภคสนใจติดต่อได้ที่เบอร์089-9283523/089-9936276 ขายปลีกและส่งราคาไม่แพงครับ@บ้านนาแสนสุข

เรียบเรียง: https://likeougtravel.blogspot.com/
ช้อมูลจาก หนึ่งไร่พอเพียง

ฟังเพลงเมดเล่ย์ของ สาธิต + เดือนเพ็ญ ชุดคู่ขวัญคู่ฮิต 3

ฟังเพลงเมดเล่ย์ของ สาธิต + เดือนเพ็ญ ชุดคู่ขวัญคู่ฮิต 3

สาธิต + เดือนเพ็ญ ชุดคู่ขวัญคู่ฮิต 3 กลายเป็นตำนานเพลงหมอลำที่ได้ฟังแล้ว ต้องบอกว่าชอบฟังมาก ผู้เขียนได้ฟังมาตั้งแต่ตอนเป็นเด็ก ฟังเช้าวันหยุด ตามป่า ตามสวน ตามบ้านสวน ใครที่ฟัง สาธิต + เดือนเพ็ญ ชุดคู่ขวัญคู่ฮิต 3 ด้วยตลับเทป ต้องบอกว่าเข้าถึงเพลงเก่ามากๆ และนี่คือ เพลงของ สาธิต + เดือนเพ็ญ ชุดคู่ขวัญคู่ฮิต 3





Advertisment






Advertisment




ฟังเพลงใต้ สตริงเพราะ ฟังกันยาวๆ หรอยนิ

ฟังเพลงใต้ สตริงเพราะ ฟังกันยาวๆ หรอยนิ

เพลงใต้สตริงก็มี เป็นเพลงวัยรุ่น แต่ละเพลงก็ล้านวิวขึ้นทั้งนั้น เพลงทั้งหมดเป็นชุดรวมเพลงใต้ ฟังกันยาวๆ




Advertisment